Work Life Balance เทรนด์ใหม่ที่มาแรงอย่างเห็นได้ชัด ในยุคสมัยที่วุ่นวายแบบนี้
Work Life Balance เทรนด์แนวการ ใช้ชีวิตของคนยุคสมัยนี้ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่อย่าง Gen Y และ Gen Z ที่ให้ความสำคัญ กับการใช้เวลา ของตัวเองค้นหา ความสุขพร้อมกันกับ การหาเลี้ยงชีพตนเอง
ถ้าเทียบกับสมัยก่อน อย่างคนรุ่น Boomer หรือ Gen X ที่มองว่าการทำงานหนัก คือสิ่งที่ดี เพราะในประสบการณ์ ของพวกเขา การทำงานหนัก ทำให้เราเจริญก้าวหน้า ในชีวิตและอาชีพการงาน
แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่อนไป นวัฒนกรรมที่เข้ามา เทคโนโลยีที่ เข้ามามีบทบาทในชีวิต และวิถีชีวิต บนโลกที่เปลี่ยน ธุรกิจต่าง ๆ ก็ปรับตัวตามโลก และแนวคิดการทำงานหนัก นั้นเริ่มไม่ตอบโจทย์ ต่อชีวิตของมนุษย์ ในยุคนี้เท่าไหร่แล้ว
การเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจ ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในทางสังคม
เทคโนโลยีนำพา เราให้ทำงานอย่างมี ประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเร็วขึ้น เยอะขึ้น ง่ายขึ้น ทำให้การแข่งขัน ทางธุรกิจนั้น เข้มข้นมาขึ้น ทุกคนต่างหาประสิทธิภาพ ที่ดีที่สุดของตัวเอง และนั่นจึงเริ่ม มีผลกับการทำงานของมนุษย์
การทำงานหนักนั้น ไม่ใช่คำตอบของงาน ที่ดีอีกต่อไป เพราะโลกเริ่ม หมุนเร็วขึ้นกว่าเดิม เทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นในมากมาย ในเวลาแค่หนึ่งปี สไตล์การทำงานอีกแบบ จึงเริ่มได้รับความสนใจ นั่นก็คือ “ทำงานอย่างฉลาด”
การทำงานหนัก หรือการขยันทำงานมาก ๆ กลายเป็นคุณลักษณะสำรอง ของคนทำงาน มันไม่ใช่เป้าหมาย ของเหล่าผู้บริหาร อีกต่อไปที่จะหา คนทำงานหนัก แต่ต้องการคน ทำงานได้ดี มีประสิทธิภาพใน เวลาน้อยที่สุด ซึ่งคุณลักษณะนี้ คนที่ทำงานอย่างฉลาด จะได้เปรียบอย่างมาก
บทสำรวจของ ADP Canada ถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวคิดการทำงาน
ในบทสำรวจของ ADP Canada เวลาชาวแคนาดา ถูกถามถึงเรื่อง ลำดับความสำคัญก่อนและหลัง จะมีการระบาด มี 31 เปอร์เซ็นต์ ที่ให้ “ความสมดุลอย่างมืออาชีพ” (ภาระงานที่สมดุลกับ เวลาสำหรับใช้ ในเรื่องอื่น ๆ) ซึ่งอีกด้านหนึ่ง มี 20 เปอร์เซ็นที่มอง “ค่าจ้าง” เป็นอันดับแรกของทุกอย่าง
ฮีทเธอร์ ฮาสลาม รองประธานกรรมการมาร์เก็ตติ้ง ของ ADP Canada กล่าวถึงในเรื่องนี้ว่า “ในขณะที่เมื่อก่อน ค่าจ้างและสวัสดิการ คือเรื่องอันดับต้น ๆ ที่พนักงานให้ความสำคัญ ตลอดประวัติศาสตร์ ของอุตสาหกรรมการทำงาน เราจึงต้องขยับมุมมอง ที่เราให้ความสำคัญ และวิธีที่เราเลือกใช้ ในเวลาทำงาน”
ข้อมูลเพิ่มเติมว่า 15 เปอร์เซ็นต์ ของพนักงานแคนาดา ตัดสินใจเปลี่ยนงานไปตำแหน่งใหม่ ไปอุตสาหกรรมใหม่ หรือลาออกพร้อม ๆ กัน โดยพนักงานจากรัฐอื่น มาเปอร์เซ็นต์สูงถึง 22 เปอร์เซ็นต์ โดยผลสำรวจนี้ มีผู้เข้าร่วมถึง สามพันกว่าคน
มุมมองของชีวิตและการทำงาน ที่ต่างกันของแต่ละคน
สมดุลระหว่างการทำงานและชีวิต นั้นมีความหมาย กับแต่ละคนต่างกัน โดยทีมของฮีทเธอร์ เข้าไปถามพนักงานของเธอทั้ง20 คน ในเรื่องสมดุลระหว่างการ ทำงานและชีวิต ว่ามีความหมายยังไง กับพวกเขา เธอได้รับคำตอบ ไม่เหมือนกันเลยทั้ง 20 คน
“มันสามารถมีความหมายว่า ความยืดหยุ่นในการทำงาน หรือ ระยะเวลาในการทำงาน มันสามารถเป็น สถานที่ในการทำงาน ซึ่งก็สามารถตอบได้ว่า มันคือส่วนประกอบของ สมดุลระหว่างการทำงานและชีวิต”
“ในขณะที่เรา คิดวิเคราะห์เรื่องนี้ อย่างจริงจัง และเปิดโอกาสให้ ทุกคนนำเสนอสิ่งที่ ตนเองคิด เพื่อค้นหาตำคอบ ของคำถามว่า เราจะปฏิบัติกับ พนักงานของเราอย่างไร ให้เขายังอยู่ในองค์กรของเราต่อไป
และเราจะใช้เกณฑ์ และข้อเสนออะไร ในการว่าจ้างพนักงานใหม่เข้ามา โดยส่วนที่ใหญ่ที่สุด ที่เราต้องปฏิบัติคือ เราต้องรับฟัง ว่าการทำงาน มันมีความหมายยังไงกับ ตัวของพวกเขาบ้าง”
GOBankingRates พบว่า 42% ของ Gen Z ให้ความสำคัญในเรื่อง Work life balance มากกว่าคุณสมบัติของงาน
เกือบครึ่งหนึ่ง ของประชากร Gen Z ที่ให้ความสำคัญ ของชีวิตและการทำงาน ที่สมดุลกัน โดยแบบสำรวจสัมภาษณ์ Gen Z ในช่วงอายุ 18 – 24 ที่กำลังอยู่ในวัยหางานทำ
โดยพบว่าการมีสไตล์ การทำงานแบบสมดุล การทำงานจากที่บ้าน และการที่สามารถมีวันหยุด และวันพักที่ยืดหยุ่น คือคุณลักษณะสำคัญ ที่พวกเขามองหา เวลาสมัครงาน
แอนดริว ฮันเตอร์ หนึ่งในผู้ก่อบริษัท Adzuna ที่สร้าง Search Engine สำหรับการหางานทั่วโลก กล่าวว่า Gen Z มีความคาดหวังที่ แตกต่างกับคนรุ่นก่อนหน้า ในรายละเอียด และสภาพแวดล้อม ในการทำงาน โดยเฉพาะปัจจุบัน ที่มีการปลดพนักงานกัน เป็นจำนานมาก และค้นหาเพียง ผู้ที่มีความสามารถที่ พิเศษจริง ๆ
แอนดริวกล่าวว่า “มันเป็นเรื่องที่จำเป็น ของบริษัทที่ต้องเข้าใจ ความต้องการเฉพาะ ของคนกลุ่มนี้ (Gen Z) เพื่อสร้างวัฒนธรรม การทำงานที่ทำให้ พวกเขาพอใจได้”
“เหตุการณ์ระบาด เปิดโอกาสให้พนักงาน ได้ทดลองประสบการณ์ การทำงานแบบยืดหยุ่นอย่างแท้จริง ที่มาจากการทำงาน แบบทางไกล ไม่ใช่การนั่งออกฟิศ และมันเข้าใจได้ ที่พวกเขาจะไม่ค่อย อยากจะกลับไปทำงาน ที่ออฟฟิศอีก”
“สิ่งที่ต้องเข้าใจคือ สำหรับ Gen Z บางกลุ่ม เส้นทางที่เขาต้องเดิน เพื่อเข้ามาบนโลกนี้นั้น(โลกแห่งการทำงาน) เกิดขึ้นในช่วงช่วงการเกิดโรคระบาด ทำให้แต่ละคนนั้น มีความเคยชินกับการทำงาน แบบระยะไกล ทำให้คอนเซ็ปของการทำงานในออฟฟิศนั้น มันเป็นเรื่องประหลาด และไม่เคยชิน สำหรับพวกเขา”
ยังมีที่ว่างให้กับสไตล์การทำงานอย่างอื่นอยู่อีกมาก
แม้ว่าเทรนด์การทำงานแบบสมดุล กำลังมาแรง แต่ไม่ได้หมายความว่า สไตล์การทำงานแบบอื่น จะไม่มีประสิทธิภาพ หากคุณไม่ใช่ คนประเภท Gen Z เหล่านั้น ก็ยังมีเส้นทาง ให้คุณอีกหลายเส้นทาง
สุดท้ายมันขึ้นอยู่กับว่า คุณทำงานแบบไหน แล้วคุณทำได้ดีที่สุด มากกว่าจะมาเลือกว่า สไตล์การทำงานแบบไหนดีกว่ากัน โดยเรายังมีเรื่อง ให้นำเสนออีกมาก เกี่ยวกับแนวคิด ชีวิต และการทำงานของ คนยุคสมัยใหม่ ให้ได้ติดตามกัน อย่าลืมติดตาม เว็บไซต์ของเรา เพื่อจะไม่พลาด บทความต่อ ๆ ไป