วิธีดูแลสุขภาพ 2022 แนะนำวิธีการดูแลร่างกาย ที่กำลังมาแรงในคนรุ่นใหม่ ที่ปฏิบัติตามง่าย ที่เห็นผลที่เร็วและเห็นผลเป็นระยะเวลานาน !
วิธีดูแลสุขภาพ ในแต่ละปี หรือในแต่ละช่วงเวลา จะมีเทรนด์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย แต่ในปัจจุบัน ที่เป็นเทรนด์มาแรง และได้รับความนิยม ที่สูงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยทำงาน หรือผู้สูงอายุ ต่างก็ใส่ใจ ในเรื่องสุขภาพ ที่มากขึ้นกว่าเดิม เพราะนอกจากว่า จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ยังมีส่วนช่วย ในเรื่องในเรื่องของจิตใจอีกด้วย
จึงทำให้ในปี 2022 จึงได้มีคนมากมาย ที่ไม่ใช่เพียงแค่ในไทย แต่เป็นคนทั่วโลก ได้หันมาดูแลร่างกาย ดูแลสุขภาพ ให้มีความแข็งแรง ลดความเสี่ยงการเจ็บป่วย หรือลดความรุนแรง เมื่อยามเจ็บป่วย เรียกได้ว่าเป็นเทรนด์มาแรง ที่สร้างแต่ประโยชน์ให้แก้ผู้เล่น
ไอเทมแห่งยุค สำหรับ วิธีดูแลสุขภาพร่างกาย สามารถทำได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับความสะดวก หรือว่าความถนัด ว่าแต่ละคนนั้น มีความถนัดอย่างไร ในบทความนี้ จะมาแนะนำ วิธีดูแลสุขภาพ สำหรับผู้ที่สนใจ ในการดูแลสุขภาพ จะมีวิธีไหนบ้าง ที่เหมาะกับตัวเอง เราไปดูกันเลย !
วิธีดูแลสุขภาพ เพื่อร่างกายที่แข็งแรง ทั้งแข็งแรงทางกาย และแข็งแรงทางใจ ไม่ว่าวัยไหนก็ตาม สามารถทำได้ทุกคน
วิธีดูแลสุขภาพ การออกกำลังกาย ถือว่าเป็น 1 ใน 5 วิธีดูแลสุขภาพ ที่ได้รับความนิยม ที่ช่วยในเรื่องสุขภาพทางกาย และสุขภาพทางจิต การออกกำลังกาย จึงถือว่าเป็น วิธีดูแลสุขภาพจิต ในเบื้องต้น ที่เป็น ไลฟ์ สไตล์ ของคนไทย ที่คนรุ่นใหม่นั้น มีความชื่นชอบอย่างมาก เนื่องจากปฏิบัติง่าย และเห็นผลจริง
ประโยชน์ของการออกกำลังกาย มีมากมายหลายอย่าง เช่น ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ลดความเครียด ลดความวิตกกังวล ช่วยให้จิตใจแจ่มใส ป้องกันโรคหัวใจ ช่วยให้หลับสบาย มีสมาธิที่ดีขึ้น สร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย หรือได้หุ่นตามที่ต้องการ ฯลฯ ประโยชน์มากมายขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลย ที่การออกกำลังกาย ถือว่าเป็นวิธีการดูแล สุขภาพและความงาม ที่ได้รับความนิยมมาก ๆ
การออกกำลังกายนั้น มีอยู่มากมายหลายวิธี เช่น การเล่นโยคะ การวิ่ง การเดินเหยาะ การเต้นแอโรบิก การเล่นกีฬา ฯลฯ เป็นต้น ไม่ว่าจะวิธีไหนก็ตาม ก็ส่งผลดีมากที่สุด แต่วิธีที่กำลังมาแรง คือ การเล่นโยคะ เพราะสามารถเล่นได้เองที่บ้าน ไม่ต้องเสียเวลาออกไป โดยสามารถเรียนรู้วิธีการเล่นโยคะใน youtube ทั้งในคนไทย และคนต่างประเทศ
การเล่นโยคะนั้น ถือว่าติด 1 ใน วิธีดูแลร่างกาย15ข้อ ที่นิยมมาก ๆ โดยจะช่วยให้ผู้เล่น มีความนิ่ง มีสติ หรือสมาธิ ที่มากกว่าเดิม เพราะการเล่นโยคะนั้น วิธีการเล่นนั้นต้องนิ่ง ช่วยให้กล้ามเนื้อนั้น เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ช่วยลดการเจ็บปวด หรือความอักเสบของกล้ามเนื้อ เมื่อเล่นเป็นเวลานาน แถมยังช่วยในการปรับฮอร์โมน ให้มีความสมดุลอีกด้วย
นอนหลับพักผ่อน และดื่มน้ำให้เพียงพอ ต่อความต้องการของร่างกาย วิธีดูแลสุขภาพเบื้องต้น ที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็สามารถทำได้
การนอนหลับพักผ่อน เป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ในร่างกาย และถือว่าเป็น เคล็ดลับการดูแลสุขภาพพื้นฐาน 12 ข้อ ที่ปฏิบัติตามได้ง่าย และการนอนหลับนั้น ถือว่าสำคัญทุกคน เพราะการนอนหลับนั้น ร่างกายจะได้พักผ่อน และทำการผลิตฮอร์โมนสำคัญอย่าง เมลาโทนิน (Melatonin) และโกรทฮอร์โมน (growth hormone)
แต่ฮอร์โมนทั้ง 2 ชนิด จะทำการหลั่งออกมา ก็ต่อเมื่อร่างกายนั้น มีการหลับที่สนิท ดังนั้น การนอนหลับนั้น ควรนอนอย่างต่ำวันละ 8 ชั่วโมง และควรเริ่มนอนตั้งแต่ 4 ทุ่ม ไม่ควรนอนเกิน 5 ทุ่มเด็ดขาด เพราะร่างกายจะได้หลับสนิท ในช่วงที่เวลา ที่ฮอร์โมนเมลาโทนิน และโกรทฮอร์โมน หลั่งออกมาได้ทัน
แต่ถ้าหากวันนั้น มีเหตุทำให้นอนไม่พอ ก็จะทำให้ร่างกาย เกิดผลกระทบหลายอย่าง เช่น ไม่สดชื่นเมื่อตื่นนอน รู้สึกง่วงนอนตลอดทั้งวัน ไม่มีสมาธิ ขี้หลงขี้ลืม ความจำไม่ดี อาจจะส่งผลกระทบต่อการทำงาน ทำให้งานผิดพลาดได้ ดังนั้น ถ้ารีบนอนได้ ควรรีบนอนให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างวัน
ทานอาหารที่มีประโยชน์ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ทานผักและผลไม้ เป็นประจำทุกวัน เพื่อสุขภาพที่ดี
การทานอาหาร ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ถือว่าเป็น 10วิธีดูแลสุขภาพ ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ไม่ว่าใครก็ตาม ไม่ว่าจะเด็ก หรือว่าผู้ใหญ่ ทุกคนสามารถปฏิบัติได้ การทานอาหาร ควรทานผักและผลไม้มาก ๆ และทานอาหารอื่น ๆ ให้มีความเหมาะสม และมีความเพียงพอ ต่อความต้องการของร่างกาย ดังนี้
- หมู่ที่ 1 โปรตีน ได้แก่ ไข่ ปลา เผือก มัน ฯลฯ ควรทานโปรตีน 1-2 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
- หมู่ที่ 2 คาร์โบไฮเดรต ได้แก่ แป้ง น้ำตาล ข้าว ฯลฯ ควรทานคาร์โบไฮเดรตประมาณ 3-5 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม แต่ถ้าใครใช้พลังงานมากกว่านั้น ก็ทานในปริมาณที่มากขึ้น
- หมู่ที่ 3 เกลือแร่ ได้แก่ ผักชนิดต่าง ๆ ควรทานเกลือแร่ จะมีสัดส่วนที่ไม่เท่ากัน เช่น แมกนีเซียม 350 มิลลิกรัม แคลเซียม 800 มิลลิกรัม หรือเหล็ก 15 มิลลิกรัม
- หมู่ที่ 4 วิตามิน ได้แก่ ผลไม้ชนิดต่าง ๆ ควรทานวิตามิน จะมีสัดส่วนที่ไม่เท่ากัน เช่น วิตามินซี 60 มิลลิกรัม หรือวิตามินอี 10 มิลลิกรัม เป็นต้น
- หมู่ที่ 5 ไขมัน ได้แก่ พวกไขมันพืช พวกไขมันสัตว์ ฯลฯ ควรทานไขมันไม่เกิน 30% ของพลังงานในร่างกาย ที่ต้องการในแต่ละวัน
เขียนบทความโดย : MP