ที่เที่ยวตามรอยพญานาค สายมูเตลูไม่ควรพลาด ขอพรเรื่องโชคลาภ เงินทองไม่ขาดสาย
ที่เที่ยวตามรอยพญานาค เรื่องราวของสถานที่ เที่ยวตามสไตล์ ที่มีตำนานของเหล่าพญานาค จะมีที่ไหนกันบ้าง โดยส่วนใหญ่แล้ว วัดที่มีพญานาค กรุงเทพมหานคร ก็มีอยู่แทบจะทุกที่ ที่เป็นวัดค่ะ อาจจะด้วยเพราะตำนานของพญานาคนั้น อยู่คู่กับศาสนาพุทธ จึงเป็นตัวแทนในการสอนหลักธรรม เลยได้มีการสร้าง เพื่อให้นึกถึงคำสอนทางศาสนา
โดยสถานที่ที่มีพญานาคนั้น ก็มีหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นถ้ำ หรือว่าจะเป็นวัดก็ตาม บางสถานที่นั้นก็จะมีร่องรอยของพญานาค ให้เห็นเด่นชัดกันเลยทีเดียว
ไลฟ์ สไตล์ ของคนไทย มาดูกันดีกว่าว่า ที่เที่ยวตามรอยพญานาค ถ้าหากคุณเดินทาง ไหว้พญานาค กรุงเทพ หลาย ๆ ที่แล้ว อยากเดินทางออกต่างจังหวัด จะมีสถานที่สำคัญที่ไหน ที่มีกลิ่นอาย ของเหล่าพญานาคอยู่ด้วย
ขอเริ่มต้นกันที่จังหวัด อุดรธานี ซึ่งสถานที่ขึ้นชื่อนี้ ก็คือ วัดป่าคำชะโนด นั่นเอง สำหรับคนในพื้นที่นั้น ก็เชื่อกันมาอย่างยาวนานแล้วว่า สถานที่ดังกล่าวนี้ เป็นดินแดนที่แสนศักดิ์สิทธิ์ ของบรรดาพญานาค
ที่เที่ยวตามรอยพญานาค ก็มีเรื่องราวที่บอกต่อกัน มาอย่างยาวนานว่า เกาะแห่งนี้นั้นลอยน้ำอย่างเดียว ไม่เคยจมน้ำเลย
เนื่องจากเต็มไปด้วยพญานาค ที่คอยปกปักรักษาไว้นั่นเอง สำหรับเกาะลอยน้ำคำชะโนด ก็มีเนื้อที่จำนวน 20 กว่าไร่ ต้นไม้สำคัญที่มีอยู่มาก ก็ดูจะเห็นว่าเป็นต้นชะโนดนั่นแหละ ที่มักจะขึ้นเรียงรายก็จะเต็มพื้นที่เลยล่ะ อากาศที่นี่นั้น โดยส่วนใหญ่ก็จะเย็นสบาย โดยที่ไม่ต้องมีแอร์แต่อย่างใด
และเมื่อเวลาหน้าฝนบริเวณรอบเกาะนี้ ก็จะมีน้ำท่วมเป็นประจำอยู่แล้วทุกปี แต่ขอแห่งนี้ก็จะลอยขึ้นมานั่นเอง นั่นหมายความว่า เวลาที่น้ำขึ้นเกาะก็จะลอยอยู่เหนือน้ำ ใช้เวลาที่น้ำลง เกาะก็จะลอยต่ำลงตามระดับน้ำ
โดยน้ำที่ไหลเอ่อล้น มาท่วมเกาะแห่งนี้ ก็คือน้ำที่มาจากแม่น้ำสงคราม ในแม่น้ำสงครามก็จะไหลลงสู่แม่น้ำใหญ่อย่างแม่น้ำโขง และที่นี่ก็ยังมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่มีชื่อเรียกว่า เป็นบ่อของพญานาค โดยมีการวัดจากลำไม้ไผ่กว่า 3 ลำ นำมาต่อเรียงกัน
ไม่ว่าจะวัดลงไปอย่างไร ก็ยังลึกมากกว่าไม้ไผ่ 3 ลำดังกล่าวนี้ แต่ก็เป็นเรื่องที่แปลกมาก หากนำเหรียญโยนลงไปพี่บอกแห่งนี้ ก็จะมองเห็นเหรียญนี้ หากมองขึ้นมาจากด้านบน และน้ำในบ่อนี้ก็ใสอย่างมากทีเดียว เชื่อกันว่าพญานาคนั้น จะเดินทางออกมาจากปล่องนี้
สำหรับองค์พญานาค ที่ดูแลสถานที่แห่งนี้ก็คือ พ่อปู่ศรีสุทโธ หรือว่าองค์นาคาธิบดีศรีสุทโธนั่นเอง ซึ่งท่านจะมีตัวเป็นสีเขียวมรกต แล้วก็มีเศียรที่เป็นสีทอง ท่านจะมีเมตตาอย่างมาก ต่อผู้ที่มากราบไหว้ และลูกหลานของท่าน หากอธิษฐานอะไร โดยส่วนใหญ่แล้วก็มักจะได้กันทั้งหมด
และสถานที่แห่งนี้ ก็มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมฟรีทุกฤดูกาล และมักจะมีคนมาบนบานศาลกล่าว อยู่อย่างมากกันเลยทีเดียว และอีกท่านหนึ่ง ที่ดูแลสถานที่แห่งนี้ก็คือเจ้าย่าศรีปทุมมา สำหรับพ่อปู่ศรีสุทโธนั้น จะเป็นหน้าที่มีเศียร 9 เศียร และย่าศรีปทุมมา ก็จะเป็นหน้าที่มีเศียร 5 เศียร
ซึ่งทั้งสองท่านนี้ ก็มักจะชื่นชอบการฟังธรรม จากเหล่าพระอริยสงฆ์อย่างมากเลยทีเดียว สามารถที่จะแปลงกายเป็นมนุษย์ได้ แล้วก็ยังมีร่างไฮบริดอีกด้วย สำหรับผู้ที่มาที่นี่นั้น โดยส่วนใหญ่ก็มักจะชื่นชอบ ในเรื่องของโชคลาภ แต่สำหรับบางคนที่ยังไม่ได้ ก็ใช่ว่าท่านจะไม่ได้ช่วย
แต่ก็เนื่องจากท่าน จะดูจากลำดับความสำคัญ ใครเป็นผู้ที่มีบารมีถึง ก็จะได้พรที่ขอก่อนนั่นเอง โดยส่วนใหญ่แล้วสถานที่นี้ ก็มักจะเป็นสถานที่ ที่บรรดานักเล่นหวยชื่นชอบกัน
ที่เที่ยวตามรอยพญานาค สำหรับคนที่มีความชื่นชอบเรื่องพญานาค ก็ชื่นชอบสถานที่แห่งนี้เช่นเดียวกัน ใครที่ต้องการโชคลาภหรือว่าต้องการเรื่องอื่น ๆ ที่เป็นเรื่องที่ดีนั้น ก็สามารถไปเยี่ยมชมแล้วก็ร้องขอ ต่อทั้งสองท่านนี้ได้ หรือว่าใครที่มีความชอบหรือว่าเป็นลูกหลานพญานาค ก็ควรที่จะไปสักการบูชาท่านทั้งสองนี้
วัดพญานาค หนองคาย ที่เหล่าสายญาณพญานาค ต้องเดินทางไปสักการะ จะเป็นที่ไหน ตามมาเลย
มาต่อกันที่ ที่เที่ยวตามรอยพญานาค สถานที่แห่งที่ 2 กันเลย สถานที่แห่งนี้ก็มีชื่อว่า ถ้ำดินเพียง ซึ่งอยู่ในจังหวัดหนองคาย โดยที่ตำแหน่งนี้ก็อยู่ใน วัดท่านศรีมงคลนั่นเอง ซึ่งก็มีเรื่องเล่ามาอย่างช้านานว่า เป็นสถานที่เข้าออก ไปยังเมืองบาดาลของเหล่าพญานาคได้
โดยตั้งอยู่ที่ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม บ้านดงต้อย จังหวัดหนองคาย ด้วยความที่เป็นเรื่องเล่ามาอย่างช้านาน ว่าเป็นสถานที่ ที่มีเรื่องราวของพญานาค จึงเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ที่เดินทางเพื่อมาไหว้ ขอพรจากเหล่าพญานาคกัน
ที่เที่ยวตามรอยพญานาค สำหรับในถ้ำแห่งนี้ ก็จะเต็มไปด้วยความชื้นอยู่ตลอด มีลักษณะเป็นโพรง สามารถเดินลอดผ่านเข้าไปได้ ซึ่งก็จะมีความคล้ายกับเมืองบาดาล ของพญานาคอย่างมาก นอกจากนี้แล้วก็ยังมีจุดเชื่อมต่อ ที่เชื่อมยาวไปถึงลำน้ำโขงมาเลยทีเดียว
โดยมีตำนานได้เล่ากันว่า ทางเข้าออกที่นี่นั้น ก็เป็นทางเข้าออก ที่ธิดาพญานาคใช้สัญจร โดยที่เธอนั้น มาหลงรักเจ้าชายที่เป็นมนุษย์นั่นเอง แต่เมื่อถึงวันออกพรรษา ธิดาพญานาคก็มีความจำเป็น ต้องกลับไปที่เมืองบาดาลของตน ส่วนเจ้าชายนั้นก็ได้มาตามธิดาผู้นี้ จนได้มาทราบความจริงภายหลัง ว่าเธอนั้นเป็นพญานาค
และเจ้าชายคนนั้น ก็เลยตั้งใจที่จะตัดขาดความสัมพันธ์ และยังมีความเชื่อว่าถ้ำแห่งนี้ ก็ยังเป็นเส้นทาง ที่สามารถไปยังเมืองบาดาล ของพญานาคได้ด้วย มีเรื่องเล่ากันมาอย่างยาวนานแล้วว่า มีพระธุดงค์ที่สามารถเดินทางผ่านถ้ำนี้ แล้วรอดใต้แม่น้ำโขง มาขึ้นยังฝั่งไทยได้
ซึ่งพระธุดงค์ท่านนั้น ก็มาจากประเทศลาว ใช้โดยส่วนใหญ่ ก็ต้องเป็นพระสงฆ์ที่มีบารมีสูง ถึงจะสามารถมองเห็น และสามารถสัญจรเส้นทางนี้ได้ โดยก่อนที่คุณจะเข้าไปเยี่ยมชมนั้น ก็ควรที่จะจุดธูปสักการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อน
ก็จะมีการจัดเตรียมเอาไว้ให้ อยู่บริเวณหน้าถ้ำ และควรที่จะอ่านข้อห้ามต่าง ๆ ให้ดีสำหรับการไปเยี่ยมชมถ้ำแห่งนี้ ในช่วงแรกของถ้ำนั้น เพดานของถ้ำ ก็จะต่ำพอสมควร ก็จะต้องมีการย่อมีการมุดกันบ้าง อาจจะมีหินงอกหินย้อย เป็นอุปสรรคเล็กน้อย
นอกจากนี้แล้ว ก็ยังมีความแคบเลยทีเดียว ใครที่ไม่ชอบที่แคบ หรือเป็นโรคกลัวที่แคบ ก็ไม่แนะนำให้เข้าไปเยี่ยมชม ชมแต่บริเวณภายนอกก็พอแล้ว
ด้านในก็จะพบกับ ห้องโถงที่ใหญ่พอสมควร ในปัจจุบันนั้นก็มีการตกแต่งด้วยไฟ หลากสีสันกันเลย ส่งผลให้เป็นจุดที่ เพิ่มความสวยงามให้กับ ถ้ำนาคา แห่งนี้ สำหรับ area ของท่านนั้น ก็อย่าถูกจัดแบ่งเป็นโซน หลากหลายห้อง
ที่เที่ยวตามรอยพญานาค แห่งนี้นั้นก็จะมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป ตามลักษณะของหินงอกหินย้อยนั่นเอง หากเดินมาจนถึงสุดทางเดิน ก็จะพบกับเจดีย์ขนาดเล็ก พี่ว่ากันว่าเจดีย์นี้ ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเอาไว้ด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวตามรอยพญานาค ที่เป็นแลนด์มาร์คของ จังหวัดนครพนมจะเป็นที่ไหน
มาต่อกันที่ ที่เที่ยวตามรอยพญานาค สถานที่ต่อมากันเลย สถานที่นี้อยู่ในจังหวัดนครพนม โดยส่วนใหญ่แล้ว หากกล่าวถึงจังหวัดนี้นั้น สัญลักษณ์สำคัญ ก็คือพระธาตุพนมนั่นเอง ซึ่งก็เป็นพระธาตุ ที่เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดนี้ อยู่คู่บ้านคู่เมืองนครพนมมาอย่างช้านาน แล้วจังหวัดนี้นั้น ก็ติดแม่น้ำสำคัญอย่างแม่น้ำโขง
แล้วความเชื่อของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นฝั่งไทยหรือว่าฝั่งลาวก็ตาม ต่างก็เชื่อว่ามีพญานาค คอยปกปักรักษาแม่น้ำแห่งนี้เอาไว้ สำหรับสถานที่แห่งนี้นั้น ก็เป็นรูปสักการะ พญาศรีสัตตนาคราช ที่จะอยู่ติดกับแถบริมแม่น้ำโขง มีลักษณะเป็นพญานาค 7 เศียร
ที่เที่ยวตามรอยพญานาค แห่งนี้โดยที่ตั้งของรูปสักการะ ก็จะอยู่บริเวณหน้าสำนักงานป่าไม้ ตั้งอยู่บนถนนสุนทรวิจิตร อยู่ในเขตอำเภอเมืองนครพนมนั่นเอง ซึ่งก็นับได้ว่า เป็นทัศนียภาพที่สวยงามอย่างมาก เต็มไปด้วยวิวที่สวยงาม และได้ยินได้เห็น วิถีชีวิตของผู้คนที่อยู่ที่นี่
สำหรับรูปสักการะองค์พญานาคนั้น ใช้วัสดุทองเหลืองทำขึ้นมา อีกทั้งยังเป็นองค์พญานาคทองเหลือง ที่มีขนาดใหญ่มากที่สุด ในแถบภาคอีสานแห่งนี้ ด้วย โดยน้ำหนักของรูปสักการะนี้ ก็อยู่ที่ 9,000 กิโลกรัม เป็นรูปพญานาคที่มีลักษณะขดตัว และมีเศียรกว่า 7 เศียร
เต็มไปด้วยความสง่างามอย่างมาก โดยฐานของรูปสักการะนี้ ก็จะมีลักษณะเป็นแปดเหลี่ยม มีความกว้างอยู่ที่ 6 เมตร ความสูงนับตั้งแต่ฐาน จนไปถึงยอดบนสุดของเหรียญพญานาค ก็มีจำนวนกว่า 15 เมตร
และองค์พญานาคนี้ ก็มีการพ่นน้ำออกมาได้ด้วย ความเชื่อของคนส่วนใหญ่ก็ว่ากันว่า ใครที่มาขอพร องค์พญาศรีสัตตนาคราช โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะได้พรสมดังที่ตั้งใจ เนื่องจากท่านก็มีความศักดิ์สิทธิ์มากเช่นกัน ส่งผลให้บริเวณนี้ก็มักจะมีผู้คน ที่มาสักการะกันอย่างไม่ขาดสาย
แล้วที่นี่ก็ยังเป็นจุดท่องเที่ยวหรือว่า Landmark อีกที่หนึ่งในจังหวัดนครพนม ใครมาสักการบูชา องค์พระยาศรีสัตตนาคราช โดยส่วนใหญ่ก็ได้ความเป็นสิริมงคลกลับไปแทบทั้งสิ้น
มาต่อกันกับตำนานของ ท่านพญาศรีสัตตนาคราชกัน ว่ากันว่าตระกูลของท่านศรีสัตตนาคราชนี้ ก็มีมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว โดยที่ตระกูลของท่านนั้น ก็ใกล้ชิดกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างมาก
และตระกูลของท่านนั้น ก็ถือได้ว่าเป็นต้นตระกูล ของบรรดาพญานาคหน้าส่วนใหญ่ ที่อยู่ในไทยกันเลยทีเดียว ความเชื่อของทั้งพี่น้องชาวไทยและชาวลาว ก็กล่าวได้ว่า ในแถบลุ่มแม่น้ำโขงนั้น ก็มีองค์พระยาศรีสัชนาคราช ซึ่งก็เป็นหน้าที่เป็นกษัตริย์ คอยดูแลอยู่ทางฝั่งลาวนั่นเอง
สำหรับทางฝั่งไทยนั้น ก็มีพ่อปู่ศรีสุทโธหรือพญาศรีสุทโธนาคราช คอยปกปักรักษาดูแลอยู่นั่นเอง และพญานาคทั้งสองท่านนี้ ก็เป็นสหายที่สนิทและรักใคร่กันอย่างมากอีกด้วย
สถานที่ปิดท้าย วัดที่มีพญานาค ปทุมธานี สถานที่ที่มีชื่อว่า คำชะโนด 2 จะน่าสนใจมากแค่ไหน
มาต่อกันกับสถานที่ ที่เที่ยวตามรอยพญานาค ที่มีตำนานเกี่ยวกับพญานาค อีกที่หนึ่งอย่าง วัดป่าคลอง 11 ที่มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าคำชะโนด 2 ด้วยภูมิศาสตร์ที่โดดเป็นเกาะกลางน้ำเหมือนกัน ก็เลยเรียกแทนว่า เป็นเหมือนคำชะโนด 2 สำหรับองค์นาคาธิบดี ที่ประจำอยู่ที่นี่นั้น ก็มีด้วยกันกว่า 4 องค์
และพญานาคที่ดูแลประจำ ก็มีมากถึง 10 องค์ด้วยกัน ถือว่าเป็นสถานที่ ที่ใครที่มีบุญสัมพันธ์กับองค์พญานาค ต้องมาให้ถึงที่กันเลยทีเดียว อีกทั้งยังไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อยู่แค่จังหวัดปทุมธานีเอง
มาเรียนรู้ที่การสักการบูชา องค์ปู่พญานาคกันเลย โดยที่สามารถซื้อบายศรีได้ ตามร้านค้าที่ขายบายศรี ซึ่งหาได้ทั่วไปในบริเวณวัดแห่งนี้ มาดูรายละเอียดในเรื่องของบายศรีกันหน่อย บายศรีที่เป็นบ่วงนาคบาศนั้น ก็ไว้ขอในเรื่องการงานการเงิน
สำหรับบายศรีที่เป็นนาคเกี้ยว ไว้ขอในเรื่องค้าขายรุ่งเรือง แล้วก็มีบายศรี แบบมหาโชคมหาลาภ ซึ่งก็จะเป็นเซต ที่สามารถไหว้ได้ครบทุกองค์ โดยที่คุณนั้นชอบแบบไหน ก็สามารถเลือกบายศรีแบบนั้นได้เลย เวลาที่ว่ายน้ำโดยส่วนใหญ่แล้ว ก็ไหว้พร้อมกันกับ บายศรี หมากพลู ดอกไม้ธูปเทียน พวงมาลัย
สำหรับบรรยากาศในวัดนั้น ก็เป็นไปด้วยความร่มรื่นอย่างมาก อันดับแรกนั้น ก็ควรเริ่มต้นไหว้พระสีวลีกันก่อน การจะไหว้ท่านพระสิวลีนั้น ก็จะใช้ธูปจำนวน 3 ดอก หลังจากที่ไหว้พระสิวลีเสร็จแล้ว ก็ไปไหว้พ่อปู่ศรีสุทโธ และแม่ย่าศรีปทุมมา ซึ่งจะอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน
ซึ่งจะใช้ธูปไหว้ทั้งหมด 5 ดอก และจุดที่ 3 ที่จะไปกันต่อนั้น ก็คือจุดไฮไลท์ของวัดแห่งนี้ นั่นก็คือโบสถ์กลางน้ำนั่นเอง บริเวณโบสถ์กลางน้ำ ก็จะได้สักการบูชา องค์พญานาคครบทุก องค์ พญานาค ราช หากเราหันหน้าเข้าโบสถ์ บริเวณจุดแรกที่เราต้องสักการะ
นั่นก็คือองค์อนันตนาคราช ซึ่งท่านจะให้พรด้านการค้าขาย และการเปิดธุรกิจใหม่ ส่วนจุดที่ 2 ก็จะอยู่ด้านขวาขององค์อนันตนาคราช นั่นก็คือองค์เอรกปัตตนาคราช ซึ่งก็เป็นพระอนุชา ขององค์อนันตนาคราช ซึ่งท่านจะให้พรเกี่ยวกับเรื่องสติปัญญา
จากนั้นก็นำบายศรี มาไหว้บริเวณด้านหน้าทางเข้าโบสถ์ และช่วงทางเข้าของโบสถ์ ก็จะมีนาคมานพนาคราช ซึ่งจะอยู่ทางด้านขวา ส่วนพระสยามเทวาธิราช ก็จะอยู่ทางด้านซ้าย บริเวณทางเข้าโบสถ์เช่นกัน ก่อนที่จะเข้าไปในโบสถ์ก็ต้องไหว้ท่านก่อน
หลังจากที่เข้าไปในโบสถ์ ก็ไหว้พระประธานที่อยู่ในโบสถ์ แล้วก็เวียนโบสถ์ทางด้านซ้าย เพื่อไหว้องค์พญานาคต่อ ซึ่งพญานาคอีก 2 ท่านนั้น หางก็จะเกี่ยวกัน ซึ่งก็เป็นตามตำนาน ของการกวนเกษียรสมุทร เพื่อที่จะทำเป็นน้ำอมฤตนั่นเอง
ตำแหน่งที่ควรจะขอพรอีกที่หนึ่ง นั่นก็คือบริเวณที่หาง ของพญานาคทั้งสองท่านนี้ ที่พันเกี่ยวกัน ซึ่งด้านล่างของหางของทั้งสองท่านก็จะมีน้ำพุ โดยที่หันหน้าบายศรีไปทางด้านน้ำพุ แล้วก็นั่งขอพรได้เลย
บริเวณนี้เราก็จะไหว้องค์สุโภคนาคราช ซึ่งท่านจะให้พร เกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สมบัติ แล้วก็เรื่องโชคลาภเป็นหลัก สำหรับองค์สุดท้ายองค์ที่ 6 นั้นก็คือองค์ทินนนาคราช ใครที่ต้องการเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพที่แข็งแรง แล้วก็เรื่องการขจัดปัดเป่าคุณไสย ก็มาขอท่านได้
จากนั้นก็ไปจุดที่ 7 กันต่อ จุดนี้ก็นำพวงมาลัยมาไหว้ขอพร องค์สังขปารนาคราช ต่อจากนั้นก็ไปจุดที่ 8 ตรงจุดนี้เราก็จะมาไหว้ องค์อินทกาลนาคราช สำหรับวัดแห่งนี้นั้น ก็เป็นวัดที่มีองค์นาคาธิบดีมากที่สุดแล้ว
ซึ่งโดยส่วนใหญ่แต่ละวัดนั้น ก็จะมีคงนาคาธิบดีปกปักรักษาอยู่ประมาณ 1 ท่าน ต่อไปก็มาไหว้กันต่อที่จุดที่ 9 นั่นก็คือ นันโทปนันทนาคราช จากนั้นก็ไปจุดที่ 10 กัน จุดนี้ก็จะเป็นคงสุปฏิฏฐนาคราช หากไหว้จนครบทั้ง 10 จุดแล้ว จุดที่ 10 นี้ก็จะมาจรดกับทางเข้าที่มาจอดรถพอดี
จากนั้นก็ไปต่อกันที่หอพระพุทธอรหันต์ สำหรับหอแห่งนี้นั้น ก็เป็นโซนที่ใช้ปฏิบัติธรรมกันด้วย ก็มักจะมีอุบาสก อุบาสิกามาปฏิบัติธรรมกันอยู่เป็นประจำ เป็นอย่างไรกันบ้าง กับสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับพญานาคทั้ง 4 แห่ง ใครที่สนใจก็สามารถไปสักการะ บูชา พญานาค กันได้ ตามความสะดวกและเหมาะสม
หรือสามารถค้นหาโดยใช้คำว่า วัดที่มีพญานาคใกล้ฉัน คุณก็จะพบกับวัดที่ต้องการจะเดินทางค่ะ
อ่านมาถึงตรงนี้คงต้องบอกว่า ใครที่เป็นสายมูเตลู คงไม่พลาดอย่างแน่นอน เพื่อความสับความปังแล้ว ก็พลาดไม่ได้เลยสักที่ค่ะ และหากใครที่ต้องการอ่านบทความกีฬา อลิสมี ไฮไลท์นักเตะ2023 มาฝากกันอีกด้วย บอกเลยว่าแฟนบอลไม่ควรพลาดเลยล่ะ
และนอกจากข่าวสารวงการฟุตบอล เรายังมี รายการแข่งขันกอล์ฟ ที่เอาใจเพื่อน ๆ ที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้เช่นกัน เพราะนอกจากรายการแข่งขันแล้ว เรายังมีประวัตินักกีฬา และสนามน่าใช้บริการ ที่รอคุณติดตามกัน ฝากผลงานของอลิสด้วยนะคะ สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีค่ะ
เขียนโดย อลิส